วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

รีวิวเลนส์ Yongnuo Fix 35 f2 / Review Lens Fix 35 f2


       รีวิวเลนส์ Yongnuo Fix 35 f2 / Review Lens Fix 35 f2 พกเอาไว้อุ่นใจอะ


กราบสวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง และก็มาพบกันอีกรอบแล้วกับผม นายฟ้าคนเดิมเพิ่มเติม คือ จน วันนี้เนื่องจากเลิกงาม ยามดีเลยถือโอกาสมารีวิวเลนส์สักตัวละกัน สำหรับพระเอกของวันนี้ก็คือเจ้า Yougnuo 35 f2 นั้นเอง จะรอช้าอยู่ไย ไปชมกันเลย

และเหมือนเดิมทุกครั้ง รีวิวนี้ จ่ายเอง บ่นเอง เขียนเอง ว่ากันไปตามเนื้อผ้า

เริ่มจากข้อมูลทางเทคนิค

- เลนส์ตัวนี้สามารถถ่ายเข้าใกล้ได้มากสุดถึง 0.25 เมตร
- รูรับแสงกว้างสุดที่ f2
- รองรับการโฟกัส ทั้ง AF และ MF
- รูรับแสงใช้ ใบเบรดทั้งหมด 7 ใบ ช่วยให้แฉกมากถึง 14 แฉก
- จำนวนชิ้นเลนส์ทั้งหมด 7 ชิ้น
- ท้ายเลนส์ทำจากโลหะชุบ
- สำหรับ Canon (ยังไม่มีของ nik) ใช้ได้ทั้ง EF และ EFs สั้นๆก็ใส่ได้ทุกบอดี้
- รองรับการใช้งานในทุกโหมด
- โค้ทหน้าเลนส์ลดความฟุ้ง และ แฟร์เวลาถ่ายย้อนแสง
- หน้าสัมพัสชุบทอง

อ้างอิงจากเว็บผู้ผลิต http://www.hkyongnuo.com/e-detaily.php?ID=359

ทีนี้มาดูโฉมหน้าของเจ้าเลนส์ตัวนี้กันเริ่มจากการแกะกล่องเลยละกัน



กล่องมาในสีที่เหมือนกล่องกระดาษลังทั่วไป ด้านบนเคลือบสีดำ ตีแบรน Yongnuo มาชัดเจนส่วนด้านข้างมีขนาดเลนส์และรูรับแสงบอกชัดเจน และมีรูปเลนส์อยู่ด้านข้างด้วย


เปิดมาด้านในจะพบกับตัวเลนส์ใส่ห่อกันกระแทกมาอย่างดี มีใบรับประกันน่าจะเป็นภาษาจีนล้วนๆ งานตึบมาอีกตามเคย แล้วก็มีซองกันชื้น กับ คู่มือการใช้งานซึ้งก็เป็นภาษาจีน อีกเช่นเคย



มาดูกันชัดๆ ความรู้สึกแรก นี่มัน 50 1.8 ชัดๆทั้งขนาดน้ำหนักรูปทรงใกล้เคียงกันมาก จะต่างกันก็ตรงแหวนโฟกัสมือ ที่เจ้า 35 f2 นี่จะกว้างกว่า 50 1.8 อย่างเห็นได้ชัดแต่สีมันแปลก ๆ ซีดๆ จาง ๆ



เปิดฝาปิดเลนส์ออกมาจะมีโฟมกันกระแทก และ ฟิลม์ติดที่หน้าเลนส์ก่อนใช้ต้องลอกออก ทั้งหน้า และ ท้ายเลนส์ อันนี้แอบชมนะเขาใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ดีมาก



ด้านท้ายเลนส์ให้เป็นโลหะมาดูแข็งแรงกว่า 50 1.8 อย่างเห็นได้ชัด ท้ายเลนส์มีเลขน่าจะไว้เช็ค หรือ อะไรก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ



ด้านฝาปิดท้ายเลนส์ไม่มีอะไรพิเศษเป็นฝาเรียบๆ ส่วนผิวเลนส์เป็นผิวสาก มีลายน้ำ ไม่เหมือนกับ 50 1.8 ที่ผิวเรียบและมัน



ส่วนหน้าเลนส์นั้นมีขนาดเท่ากับ 50 1.8 คือ 52มิล สามารถใช้ฟิลเตอร์และฮูดของ 50 1.8 ใส่แทนกันได้เลยเหมือนเป็นเลนส์ตัวเดียวกันจริงๆ



หลังจากใส่ฮูดแล้ว หน้าตาก็ออกมาเป็นอย่างนี้ เหมือนกับ 50 ถอดกันมาเลยก็ว่าได้


มาต่อกันด้วยการเทสค่า F ว่าเลนส์ตัวนี้ให้ภาพแบบไหน ทุกภาพที่ถ่ายจากเลนส์ 35 ตัวนี้ กล้องที่ใช้เทสเป็นกล้อง 70D นะครับ



คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดเต็มได้เลยครับ ภาพไม่ผ่านการปรับแต่งนะครับ ครอป+ใส่กรอบ และทุกใบถ่ายที่ สปีดเดียวกัน ใบไม้นิ่ง ส่วน iso ผมตั้ง auto ไว้ครับ ลองสังเกตกันดูเอาครับ โดยส่วนตัวผมว่าที่ F2 มันดูฟุ้งๆ dof จะบางมากๆโฟกัสเข้าค่อนข้างยาก และ F ที่ผมคิดว่าน่าจะเหมาะกับการใช้งานจริง ๆ ควรเป็น F2.5 ขึ้นไปครับ

มาต่อกันที่การถ่ายย้อนแสง



เป็นไปตามคาดครับ มีความฟุ้งของแสง และ ขอบม่วงขึ้นมาอย่างชัดเจน สำหรับขอบม่วงคงไม่เป็นปัญหาแล้วสมัยนี้คลิ๊กเดียวก็เอาอยู่ ใบนี้ผ่านการครอปมานะครับ



ทดสองเปิด F แคบๆแล้วถ่ายแฉกออกมาดูสวยงามดีครับ ถ่ายไฟกลางคืนน่าจะสวย ส่วนแฟร์ของเลนส์นั้นก็เป็นไปตามคาดครับ มีติดมาอย่างที่เห็น ส่วนตัวผมว่าไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไปเมื่อเทียบกับราคาของเลนส์


มาต่อกันที่โบเก้จะเป็นโบเก้แนวกลม ๆ คล้ายกับ 50 1.8

และก็มาถึงความไวในการโฟกัส และเสียงอย่ารอช้าไปชมคลิปกันเลยครับ



ในคลิปจะเปรียบเทียบกับเลนส์ 50 1.8 ll ของค่ายนะครับ เท่าที่ลองดูแล้ว เจ้า 35 f2 จะโฟกัสเข้าง่ายกว่าในที่แคบ และ แสงเยอะ ส่วน 50 ในที่แคบนั้นจะวืดวาดมากกว่า แต่ในที่แสงน้อย ๆ นั้นทำได้ดีกว่า เจ้า 35 f2 ครับ การทดสอบทั้งหมดก็ประมานนี้ครับผม



ตัวอย่างใบนี้ เปิด f2.8 สิ่งที่ทำ ครอป เบลอทะเบียน ปรับแสงสว่าง+ 1stop ด้วยโปรแกรม photoscap อย่างอื่นไม่ได้ทำครับ ความคมต่าง ๆ ไม่ได้ปรับเดิม ๆ จากกล้องเลยครับ


เนื่องจากผมสั่งเลนส์ตัวนี้ก่อนไปเที่ยวแต่ของมาส่งให้ไม่ทัน จึงไม่ได้นำไปทดสอบถ่ายภาพท่องเที่ยว หลังจากกลับมาก็ไม่ได้ไปไหน ก็เลยไม่ได้ถ่ายอะไร เดี๋ยวถ้ามีโอกาสจะออกไปถ่าย และ นำภาพมาเพิ่มให้ได้ชมกันครับ

สรุปเลยละกัน

ข้อดี
- น้ำหนักเบาพกพาสะดวก
- เป็นเลนส์ 35 ที่ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับเลนส์ค่าย (ผมได้มา 3500 พร้อมส่ง ราคา + - ขึ้นอยู่กับร้าน) 
- ใช้ฮูดและฟิลเตอร์ร่วมกับเลนส์ 50 1.8 ได้อันนี้ชอบเพราะประหยัดเงินค่าฟิลเตอร์ไป
- ใช้กับ canon ได้ทุกบอดี้ ทั้ง EF และ EFs 
- เม้าท์เป็นโลหะแข็งแรง
- วงแหวนโฟกัสมือ เทียบกับ 50 1.8 ตัวเก่าแล้ว ถือว่าจับถนัดกว่า
- ใส่ใจกับสิ่งเล็ก ๆ น้อยทั้งการแพค ทั้งๆที่เป็นเลนส์ราคาถูกแต่ก็ใส่ใจรายละเอียดดีมาก
- ถ่ายได้ใกล้มาก ๆ ทำให้ได้มุมมองที่ไม่น่าเบื่อ
- เสียงโฟกัสเบากว่า 50 นิดนึง
- เหมาะกับกล้องตัวคูณมาก ใส่แล้วไม่อึดอัดเท่า fix 50
- ซื้อเหอะ  5555 มันดีจริงๆ

ข้อเสีย
- เอาจริงๆจากใจเลยนะ ฮูดไม่หล่อ และโฟกัสภายนอกเหมือน 50 เวลาวิ่งหาโฟกัสมันไม่เฟี้ยวเอาสะเลย ตอนนี้สั่งฮูด ของ 50 stm มากำลังหาวิธีแปลงใส่อยู่ครับ
- f2 หวังผลไม่ค่อยได้ หลุดบ่อย ฟุ้ง ภาพไม่ค่อยคม
- จริงๆทำมาขนาดนี้น่าจะออกแบบให้ดูน่าใช้หน่อยแต่เล่นทำมายังกะแฝด 50 แต่ก็เข้าใจเรื่องต้นทุนครับ
- ขอบม่วง แฟร์ ฟุ้ง มาครบ แต่ใช้งานจริงจะได้ถ่ายย้อนแสงเต็มๆสักกีครั้งเชียว ยังไงก็รับได้ก็มันถูกอะ
- แสงน้อย ๆ แนะนำหมุนหาโฟกัสเอง ถ้าใช้ af คงไม่ได้ถ่าย วืดไปก็วืดมา 555
- นึกไม่ออก

สรุปมีทั้งข้อดีและข้อเสียในจุดต่างๆแต่แลดูข้อดีจะเยอะกว่า เพราะเป็นเลนส์ 35 ที่ราคาถูกมากเมื่อไปเทียบกับของค่าย หรือ ค่ายอื่น ๆ ให้ภาพที่ไม่ได้น่าเกลียด ข้อเสียต่าง ๆ สามารถแก้ได้ในโปรแกรมแต่งภาพ ซึ้งสามารถรับได้ โดยรวมคิดว่าใช้ได้เลยไม่เสียดายเงินที่ซื้อมาเป็นเลนส์อีกตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ครับถ้ารักการถ่ายภาพ ควรมีติดตัวไว้อุ่นใจอะ ประหนึ่งยาสามัญประจำบ้านกันเลย ทีเดียว และสุดท้ายนี้ ผมนายฟ้าต้องขอตัวไปก่อน ไว้คราวหน้ามีอะไรเจ๋ง ๆ ผมจะมารีวิวให้ชมกันอีกครับ

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

รีวิว Zenfone Max สำหรับคนที่กำลัง ลังเล หรือ สนใจ กำลังจะซื้อ ไม่ควรพลาด !!!


รีวิว Zenfone Max สำหรับคนที่กำลัง ลังเล หรือ สนใจ กำลังจะซื้อ ไม่ควรพลาด !!!




สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องกระผม นายฟ้าคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก ก็มาพบกันอีกครั้งนึงแล้ว นานทีปีหนก็ว่าได้ วันนี้จะมารีวิว เจ้า Smart Phone ที่ขึ้นชื่อเรื่องแบต ว่า อึดทนนาน มีเจ้าเครื่องนี้เหมือนมี Power bank เคลื่อนที่กันเลยทีเดียว เพราะให้ขนาดความจุของแบตมาถึง 5000mAh กันเลยทีเดียว ไม่ต้องพูดให้เสียเวลาไปชมกันเลยดีกว่าครับ


และเหมือนเดิมทุกครั้ง รีวิวฉบับนี้เสียเงินซื้อเอง ใช้เอง จ่ายเอง ดังนั้นไม่อวยแน่นอน ขอรับ

เริ่มด้วยข้อมูลด้าน Spec เครื่องกันก่อนเลยhttp://www.siamphone.com/spec/asus/zenfone_max_(zc550kl).htm



ทีนี้มาแกะกล่องดูกัน



ยังคงความเป็น Asus แถมแค่ที่ชาร์จแบตกับสาย USB เช่นเคย แต่ตัวนี้พิเศษหน่อยแถม Adaptor USB มาให้ด้วยทำหน้าที่เสมือน Power bank กันไปเลย ที่เหลือก็คู่มือการใช้งาน ใบรับประกัน
 อันนี้ทำเอาผมปวดหัวไปหลายวันเหมือนกัน หากใครมีอาการเมมเด้ง เข้าไปอ่านดูได้ผมสรุปไว้ให้แล้วครับตามนี้ http://pantip.com/topic/35155022


ตัวเครื่องด้านหน้า ก็ยังคงความเป็น Asus กับ design ที่เป็นเอกลักษณ์


ตัวเครื่องด้านหลัง ตัวนี้ฝาปิดแน่นหนามาก 

เปิดฝาหลังออกมา เจอเข้ากับแบตก้อนใหญ่มาก เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัว zenfone max มีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ และแบตไม่สามารถถอด เข้า-ออกได้นะครับ 
ต่อกันด้วยที่เสียบ เมม (ฝุ่นเยอะจริง ๆ )
ด้านข้างมีที่เสียบ ซิม 2 ช่อง ทั้งสองช่องใช้ซิมขนาด micro sim 
ปุ่มกดด้านข้าง ติดมากับตัวเครื่องเลย

มาต่อกันที่ปัญหาด้านการใช้งาน สิ่งแรกที่ทุกๆท่านจะต้องเจอ อันนี้ผมไม่ได้คิดเองเออเอง คือมีหลายๆคนที่เพิ่งซื้อมาหลังจาก เปิดเครื่องแล้วก็พบอาการ เครื่อง แลค ค้าง กระตุก เป็นกันเยอะมากแทบทุกคนจนมีการตั้งคำถามตามกระทู้ หรือ ตามกลุ่มใน facebook เยอะมาก วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีทำให้เครื่องใช้งานได้ลื่นไหลขึ้นครับ
สาเหตุมาจากตัว firmware นั้นเป็นเวอร์ชั่นเก่าซึ้งค่อนข้างมีปัญหา ทั้งเรื่องบัค และ เรื่อง gps ที่ไม่ค่อยเสถียร ทาง asus จึงออก firmware มาใหม่ ซึ้งสิ่งแรกที่ควรทำหลังจากซื้อมาคือ การ updeat firmware หรือ การอัปเดตระบบ ให้เป็นตัวล่าสุดนั้นเองครับ ส่วนวิธีทำก็ทำตามนี้เลยครับhttps://www.asus.com/th/support/FAQ/1009748/
หลังจาก updeat firmware เป็นตัวล่าสุดแล้วให้ทำการ factory reset หรือ การรีเช็ตค่าโรงงานวิธีการทำตามนี้เลยครับ https://www.asus.com/th/support/FAQ/1006347/

หลังจากนั้นเครื่องจะทำการ reset ค่าโรงงานทั้งหมด หลังจากเปิดเครื่องมาแล้วให้รีเครื่องอีกรอบนึง เครื่องก็จะพร้อมใช้งานแล้วครับ อันนี้ผมได้เจอกับตัวเองและทดลองทำตามที่บอกมา ผลออกมาเครื่องลื่นไหลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิดกับก่อนอัปเดตเลย 
ปัญหาอีกปัญหาที่ผมได้พบเจอกับตัวเอง คือ ปัญหาเมมเด้งหากใครที่ใช้ asus ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตามหากมีปัญหาเรื่องเมมเด้ง เข้า-ออก ให้ลองเปลี่ยนเมมดูเพราะเมมบางรุ่นมันไม่รองรับ
สรุปปัญหาที่ผมพบเจอกับตัวเองหลักๆมีประมานนี้ครับ

ต่อกันด้วยคำถามยอดฮิต แบตอึดถ้าจะเอามาเล่นเกมจะดีไหม ขอบอกเลยครับว่า เกม 3D effect จัดจ้านเนี่ยพอถูๆไถๆไปได้ครับไม่ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้ เลวร้ายอะไรพอไปวัดไปวาได้ แต่แอบเคืองนิดๆ เหมือนกัน เพราะขนาด zenfone go2 ที่ใช้เป็นเครื่องสำรองเนี่ยยังเล่นเกมได้ลื่นไหลกว่า แต่ถ้าเป็นสาย facebook youtube ท่องเว็บอ่าน pantip ละก็ ความแรงเหลือเฟือครับ เหมาะกับเจ้าตัวนี้มากๆ ส่วนแบตก็อึดจริง ขนาดผมนั่งเล่นทั้งวัน แบตก็ยังเหลือกลับบ้าน 25-30% เหลือๆ เลยยิ่งแบต % น้อยก็ยิ่งอึดครับ พล่ามมาสะยาว ไปดูคลิประหว่างเล่นเกมกันสักหน่อย ว่าพอรับกันได้ไหม

เกมที่ใช้ test มี 2 เกมนะครับเป็นเกมที่ผมเล่นประจำ คือ mu origin กับ เกมเศรษฐี 


สำหรับการเล่นเกมก็ประมานนี้ครับ


ต่อกันด้วยกล้อง หน้า-หลัง สำหรับกล้องหน้าหลังนั้นให้มาเท่าที่ลองใช้ถือว่าดีในระดับนึงเลยครับ ถ่ายในที่แสงน้อยได้สบายมาก มีโหมดให้เล่นหลากหลาย ข้อเสียบางครั้งมีอาการกระตุก ค้าง 1-2 วิ แต่โดยรวมผมรับได้ครับไม่ได้น่าเกลียดอะไร พูดแล้วก็มาดูรูปกันดีกว่า

เริ่มจากกล้องหลัง ภาพไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้นนะครับ เช็ค exif ได้เลย

ภาพถ่ายจากกล้องหน้าไม่ผ่านการปรับแต่งเช่นกัน

กล้องหลังไม่ผ่านการปรับแต่ง

กล้องหลังไม่ผ่านการปรับแต่ง

สำหรับกล้องถือว่าน่าพอใจสำหรับผมครับ ปรกติที่เจอๆมาดูในโทรศัพท์ชัดเจนดีแต่พอลงคอมดูแทบไม่ได้ แต่เจ้าตัวนี้ผมรับได้ครับ จริงๆรูปมีเยอะแต่ไม่อยากลงเยอะครับเดี๋ยวจะรกไป  สำหรับกล้องหลังความละเอียดสูงสุดจะให้ภาพขนาด 4:3 นะครับ
สรุป

ข้อดี
1. แบตอึด
2. ใช้ชาร์จแบตให้กับเครื่องอื่นได้
3. กล้องให้ไฟล์ภาพค่อนข้างดี
4. มีโหมดและลูกเล่นต่าง ๆ เยอะดี

ข้อเสีย
1. น้ำหนักเยอะถือนานๆปวดข้อมือ
2. ไม่เหมาะสำหรับคอเกม effect จัดจ้าน
3. ระบบ gps นำทางไม่เสถียร
4. นึกไม่ออก

โดยรวมก็ประมานนี้ครับ ส่วนการใช้งานอื่น ๆ ก็ทั่ว ๆ ไปยังไม่เจอปัญหาการใช้งานอะไรนอกเหนือจากที่กล่าวมา สรุปเลยละกันเป็นอีกรุ่นที่น่าใช้ครับ ไม่เหมาะกับเอามาเล่นเกมจริงจัง แต่ถ้าเน้นใช้งานทั่วๆไปอันนี้ตอบโจทย์คุณได้ครับ สำหรับราคาเรตนี้ก็มีอีกหลายรุ่นที่เป็นตัวเลือก แต่สำหรับผมแล้วถึงจะเจอปัญหาการใช้งานบ้างอะไรบ้าง ก็ไม่รู้สึกผิดหวังที่เลือกเครื่องนี้มาครับ จริงๆผมไม่ใช่คนยึดติดกับแบรนนะ ก่อนหน้านี้ก็ลองมาหลายรุ่น แต่ถ้าจะมีโอกาสได้ซื้ออีกเครื่องก็คงหนีไม่พ้น asus ครับ


วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

Review Toshiba memory flashair W-03 ถ่ายแล้วต้องแชร์นะเออ

Review Toshiba memory flashair W-03 ถ่ายแล้วต้องแชร์นะเออ


สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องกระผม นายฟ้าคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก ก็มาพบกันอีกแล้ว ในวันนี้ผมมี item ที่เหมาะกับยุคสมัยนี้มากๆ สำหรับผู้ที่มีกล้องเก่า และอยากได้รูปสวยๆไว้ใช้อัพลง social ไม่ว่าจะกล้อง compact mirrorless หรือ dslr ก็อยากจะแชร์ภาพสวยๆจากกล้องทันทีที่ถ่าย แต่บางรุ่นมันเก่าไม่มี wifi ในตัวทำให้แชร์ภาพไม่ได้ แต่ไม่ต้องเซ็งไปเพราะ item ชิ้นนี้จะทำให้คุณแชร์ภาพได้ทันที ทำให้คุณอยากจะพกกล้องตัวโปรด ออกไปข้างนอกมากขึ้น

มันก็คือ.... (เวอร์ไปไหม) 
Toshiba memory flashair W-03

มันคืออะไร อธิบายแบบบ้านๆเข้าใจง่าย มันคือ memory card ครับทำงานเหมือน การ์ดทั่วๆไปทุกอย่าง แต่จุดเด่นของมันที่เหนือกว่าการ์ดทั่วไปคือ มันมี wireless ในตัว เก็ทไหม ถ้าไม่เก็ทลองนึกถึง bluetooth หลักการทำงานประมานนั้นเลย คือ smartphone เราสามารถเชื่อมต่อกับ การ์ดได้ทันทีที่เราต้องการ และแน่นอนว่ามันสามารถ ดึงรูปในการ์ดจากกล้องมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แจ่มไหมละเออ

และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาหลังจากทำความรู้จักเบื้องต้นไปกันบ้างแล้ว เรามาดูกันเถอะว่ามันใช้งาน และทำงาน อย่างไรบอกเลยไม่ยาก

สำหรับรีวิวก็เหมือนเดิม ตรงๆไม่อวยไม่โม้ไม่เฟค เพราะซื้อเอง ใช้เอง บ่นเอง โปรดทำความเข้าใจ

ข้อมูลทางเทคนิค



FEATURES
Capacity
8GB
16GB
32GB
Connector Pins
9 pins
Interface
Compliant standard SD Memory Card Standard Ver.4.00
Speed Class
10
DSC (Digital Still Camera)
Compatible with SDHC™ Memory Card
Operating System (for config.)
Windows XP/ Vista/7, MAC-PC, Android (under development), iOS (under development)
Browser
Internet Explorer, Safari, etc
Wireless LAN Standard
IEEE802.11 b/g/n
Wireless LAN Security
WEP, TKIP, AES (WPA, WPA2) WPA2 Default
Applicable Data Formats
All data formats (ex: .jpg, .mpg, .raw etc)
Power Supply
2.7 - 3.6V
Dimensions
32.0mm(L)x24.0mm(W)x2.1mm(T)
Weight
approx. 2 g
Operating Temperature
-25°C to +85°C (Recommended)
Storage Temperature
-40°C to +85°C (Recommended)
Operational and Storage Humidity
95%RH (at 25°C, no condensation)

สเปคคร่าวๆก็ มี 8-32gb calss 10 ความเร็ว 10mb/s แบบ SDHC รองรับ windows และ ios 
browser ie / และอื่นๆ wireless มีการป้องกันแน่นหนา รองรับหลากหลายไฟล์ กินไฟ 2.7-3.6v ขนาด 32x24x2.1 หนัก 2กรัม อุณภูมิการทำงาน ไม่ควรเกิน -25 หรือมากกว่า 85 องศา การเก็บรักษา ไม่ควรเกิน -40 หรือมากกว่า 85 องศา ในการเก็บและทำงาน ไม่ควรอยู่ในที่ชื้นมากเกินกว่า 95% และประกันยาวๆกันไป 5 ปีเต็ม

มาต่อกันที่รูปร่างหน้าตากันหน่อย (ถ่ายรูปมาเยอะ)

เปิด lazada ไปเจอ คิดอยู่สักพักตัดสินใจลองหน่อยละกัน พอดีมีส่วนลดของ true อยู่ ก็จัดไปตามระเบียบ


บอกแล้วว่าซื้อเอง บ่นเอง 735 บาท (รวมส่วนลด) ราคานี้กับความสามารถของมันถือว่า รับได้ฉันชอบ


ด้านหลังหน่อย ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ตึบเบย 


คู่มือก็เช่นกันภาษาญี่ปุ่นทั้งนั้น ผมนี่ ตึบ ตึบ ตึบ เบย


ข้างหน้า memory มีรุ่น และ ขนาดความจุบอกชัดเจน


ด้านหลังมีข้อมลูต่างๆ และฐานที่ผลิตเป็น made in japan ฟินเลยทีเดียว


ทั้งหมดก็ประมานนี้ครับผม ไม่รอช้ามาเริ่มต้นใช้งานกันเลยดีกว่า

หลังจากเอาการ์ดใส่กล้อง ก็ไม่รอช้า format ก่อนใช้งานเลยพื้นที่จริง 14.4gb

สำหรับ กล้องที่นำมาทดสอบเป็นกล้องเก่าๆ canon 550d รุ่นนี้ไม่มี wifi ไม่มี gps และที่สำคัญไม่มีไรดีเลย 555 ล้อเล่นนะครับ เป็นกล้องครูผมเลยนะ ที่เอาตัวนี้มาทดสอบเพราะ ว่าเป็นกล้องเก่า(6ปี) ตกรุ่นไม่มีฟังชั่นอะไรพิเศษ แต่ก็สามารถใช้งานตัว flashair นี้ได้เช่นกัน



หลังจาก format เสร็จก็ทดสอบถ่ายรูป สำหรับท่านที่จะนำภาพไปใช้ต่อยอด ผมแนะนำให้ถ่าย raw+jpg ครับ หลังจากถ่ายไป 5-6 รูปลองไม่รอช้า ลองโหลดเข้า smart phone เลยละกัน


การเซ็ท smartphone ก็เริ่มจากโหลด app เข้า play store ค้นหา flashair หาปุ๊ปเจอปั๊ป อันแรกเลยครับของ toshiba ฟรีตลอดงาน



โหลดเสร็จก็ทำการเชื่อมต่อ การ์ดกับ smart phone ของเราก่อนเปิดใช้งาน app

เปิด wifi และค้นหา จะเจอ flashair_b86bxxxxx ไม่ต้องรอช้า ทำการเชื่อมต่อโดยทันทีปล. ก่อนจะเปิด wifi และค้นหา ควรเปิดกล้องทิ้งไว้ 20-30 วินาทีเพื่อให้การ์ดทำการปล่อยสัญญาน


หลังจากกดเชื่อมต่อ ก็จะเจอช่องสำหรับระหัสผ่าน ให้ใส่อะไรไปก็ได้ที่คิดว่าจำได้เพราะเดี๋ยวสามารถไปเปลี่ยนทีหลังเอาได้ อย่างเช่นผมก็เอาง่ายๆ 12345678


หลังจากนั้นก็หมับเข้าให้ เชื่อมต่อแล้ว จะรออะไรไปเปิด app ที่โหลดมาเส่


หลังจากเปิด app จะทำการเชื่อมต่อเองอัตโนมัติ(2-3วิ)ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก พอเสร็จแล้วรูปภาพที่อยู่ในกล้องทั้งหมดก็จะแสดงขึ้นมาทันทีสามารถกดเข้าไปดูรูปเต็มแล้วดาวน์โหลดมาใช้งานได้เลย หรือจะเอาไปแต่งเพิ่มก็แล้วแต่ชอบ

โหลดได้ทันที หรือ จะแชร์ไปเครื่องอื่นอีกก็ได้นะ


ถ้าใครหารูปที่โหลดมาไม่เจอ รูปภาพหลังจากที่ดาว์โหลดมาแล้วจะไปอยู่ที่อัลบั้ม flashair ตามรูปเลย 


หลังจากนั้นผมก็นำรูปภาพไฟล์ jpg เดิมๆจากกล้อง กับ smartphone อัพลง facebook เพื่อดูคุณภาพว่าต่างกับอัพผ่าน pc ไหม (สำหรับ smartphone แนะนำให้อัพผ่าน browser ไม่แนะนำให้อัพผ่าน app facebook เพื่อให้คุณภาพของภาพไม่ถูกลดทอนลง)

หลังจากที่ลองอัพภาพแล้วมาเทียบกันดู ก็พบว่าไม่ต่างกันเลยทั้งขนาดและความคมชัด เป็นที่น่าพอใจสำหรับผมมาก 


เพราะก่อนหน้านี้ถ้าจะเอาภาพสวยๆลงต้องถ่าย แล้วกลับมาลงในเครื่อง pc ผ่านการ procerss  กว่าจะเสร็จกว่าจะได้อัพเสียเวลามากและสำหรับบางครั้งที่ไปไหนหลายๆวันไปเที่ยวธรรมดาไม่ได้ออกทริปถ่ายรูป ก็ไม่อยากพกกล้องไปเพราะ ไม่รู้จะพกไปทำไม กว่าจะได้รูปก็หลังจากกลับบ้านมาแล้วมันก็หมดฟิลแล้ว แต่ตอนนี้กลับอยากพกออกไปมาขึ้นเยอะเลยเพราะรู้สึกว่ามันสะดวกแถมได้ภาพดีๆมาเก็บไว้อีกด้วย สงสัยงานนี้อาจจะได้อัพเกรด HDD ในเครื่องเพิ่มก็เป็นได้

สรุป

ข้อดี
- สะดวกสบาย กล้องตัวเลนส์ตัวการ์ดใบก็พร้อมลุย
- การทำงานต่างๆเช่นการอัพโหลดรูปเข้า smartphone ทำได้ไวมาก ไวกว่าที่คิดไว้เยอะ
- ตอนนี้ราคาถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก (แต่ก็ยังแพงกว่าการ์ดทั่วไปที่ระดับความเร็วเท่ากันอยู่เยอะ)
- มี app ต่างๆรองรับ การใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากและ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ app เพิ่ม
- ทำให้อยากเอากล้องออกนอกบ้านมากขึ้น
- ประกันยาวๆ 5 ปี

ข้อเสีย
- บางครั้งมองไม่เห็นเวลาเปิด wifi จากมือถือ ต้องปิดและเปิดกล้องใหม่
- ราคายังถือว่า แพงเมื่อเทียบกับการ์ดทั่วๆไป(มันแพงก็เพราะมันมี 
wireless ไง)
- การ์ดถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 1080p ได้ไม่ต่อเนื่องนัก ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสำหรับภาพนิ่งมากกว่า
- นึกไม่ออก  

สำหรับการ์ดตัวนี้ กับราคา 700 กว่าบาทกับความสามารถขนาดนี้ผมถือว่าโอเคครับ คิดว่าคุ้มค่า เพราะรู้สึกสะดวกสะบายขึ้นเยอะเวลาออกไปถ่ายภาพแล้วอยากแชร์ก็ทำได้ง่ายๆ ส่วนงาน VDO ส่วนตัวไม่ค่อยได้ถ่ายอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ ก็ประมานนี้ครับ สำหรับรีวิววันนี้คงต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ ไว้คราวหน้ามีอะไรเจ๋งๆผมจะนำมารีวิวให้ชมกันอีกครับ


ห้าม นำ
ภาพและเนื้อหา ไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากผมก่อนทุกกรณี








วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

Review Headset NUBWO NO V1  /  รีวิว หูฟัง NUBWO NO V1 





สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องกระผม นายฟ้าคนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก ก็มาพบกันอีกครั้งนึงแล้ว วันนี้ผมมีหูฟังเป็นแบบ Headset  จากค่าย  Nubwo ในรุ่น NO V1 มารีวิวให้ได้ชมกันครับ และเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันเลยครับสำหรับรีวิวฉบับนี้จะเป็นรีวิวแบบตรงๆไม่อวยไม่ Fake เพราะผมไม่ได้อะไรซื้อเองใช้เองบ่นเอง เข้าใจตรงกันนะ !

เริ่มจาก Spec ของเจ้า NUBWO V1 ตัวนี้
-     หูมีขนาด 10ซม. ที่ครอบหูขนาดใหญ่
-  
ลำโพง ขนาด 32 MM.
-   ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 20-20KHz
-   ความยาวสาย 2.2 m สายถักหนา2ชั้น
-   แจ็คขนาด 3.5 มม ชุบหัวทอง
-     
สายไฟทองแดงเกรดA 14 เส้นตีเกรียว

   Spec ที่ให้มาก็ประมานนี้ทั้งขนาดและวัสดุที่ให้มากับราคา 300 บาท ถือว่าโอเคเลยครับ


 


ด้านการสัมพัสภายนอกและการ ใช้งานภายนอก

หลังจากที่ได้องใช้ประมาน  1 อาทิตย์ ครั้งแรกที่สัมพัสรู้สึกว่าเป็น  Headset Full size  จริงๆ หลังจากนั้นก็เริ่มสำรวจจากตัวบอดี้ ตัวบอดี้ทำจากพลาสติกทั้งตัว ส่วนด้านข้างของลำโพงซ้ายขวา จะครอบด้วยตระแกรงเหล็กสีดำ เพิ่มความบึกบึน สายลำโพงต่างๆเก็บมาอย่างมิดชิดในระดับนึง ด้านที่คาดหัวเป็นยางสามารถทนการบิดงอได้ เนื่องจากเป็นยางทำให้เวลาทับศีรษะ หรือปรับให้กระชับรัดศีรษะ ไม่รู้สึกปวดเมื่อย ตัวปรับเลื่อนสามารถปรับได้ง่ายไม่แข็งจนเกินไป 
 
ที่ครอบหู ear cup บุด้วยหนัง นิ่มมากใส่นานๆไม่รู้สึกโดนกดจนปวดแต่อย่างใดทดสอบโดยตัวผู้รีวิวเองใส่ใช้งาน และ ใส่นอน ประมาน 7-8 ชัวโมงไม่มีอาการปวดหูถือว่าโอเคเลย หูฟังมีขนาดค่อนค้างใหญ่ครอบได้ทั้งใบหู ขณะสวมใส่ไม่รู้สึกรำคาญ และ ระบายอากาศได้ค่อนข้างดีส่วนการตัดเสียงรอบข้างนั้นทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ตัวไมค์ที่ให้มาไม่สามารถปรับได้เป็นไมค์ขนาดสั้นตัวบอดี้ไมค์เป็นพลาสติกทั้งชิ้น ทางด้านสายสัญญานเสียง หุ้มมาอย่างดีกันแรงกระชากและการบิดงอป้องกันการขาดใน โดยรวมภายนอกก็ประมานนี้ครับ
 



ที่นี้มาต่อกันด้านซุ่มเสียงบ้างว่าเป็นยังไง


สำหรับเจ้า V1 ตัวนี้ขออธิบายแบบบ้านๆละกันไม่ต้องใช้ศัพท์เทคนิคอะไร     เบสให้ความรู้สึกกระชับไม่หนักหน่วง มาค่อนข้างชัดเจนเป็นลูกๆมาแบบกลางๆฟังแล้วก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร    เสียงกลาง เจ้าตัวนี้เสียงกลางจะเยอะไปสักนิดจนบางทีคิดว่าล้นไปนะ   เสียงแหลม สำหรับเจ้าตัวอย่างที่อธิบายไว้ด้านบนคือเจ้าตัวนี้เสียงกลางจะค่อนข้างโดดเด่นแหลมนั้นมามาแบบ soft ไม่ได้โดดเด่นอะไร ออกแนว flat สะด้วยซ้ำ รวมๆก็พอฟังได้ ไม่ได้แย่อย่างที่คิดไว้ (ตอนแรกแอบคิดว่าเสียงห่วยแน่ๆ)

 ปล. 
ในการเทสผมปรับ EQ เป็น Default  ทั้งหมด ส่วนถ้าปรับแต่ง EQ แล้วก็ได้ซุ่มเสียงที่น่าพึงพอใจในระดับนึงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับราคายังแอบอึ้งอยู่เหมือนกัน อันนี้ขึ้นอยู่กับการ Set eq  ของแต่ละท่าน ซึ้งอาจจะชอบไม่เหมือนกัน ผมเลยไม่ได้นำค่าที่ set ไว้มาลงให้ดู ยังไงก็ลองปรับดูละกันครับ


เทสเสียงเล่นเกมส์

สำหรับการเล่นเกมส์ ผมได้เทสกับเกมส์แนว FPS แบบออนไลน์การแยกเสียงเท้าทำได้ดีกว่าที่คิด แยกซ้ายขวา หน้าหลังได้อย่างชัดเจน สำหรับการเล่นเกมส์ก็ถือว่าใช้ได้ดีในระดับนึงเลย และถ้าเป็นเกมส์ออนไลน์ที่ระบบเสียงไม่ได้ซับซ้อนนั้น บอกเลยว่า แทบไม่ต่างกับหูฟังเทพๆตัวละหลายพันบาทเลยครับ 





มาต่อกันที่ MIC สำหรับไมค์ของเจ้า V1 ตัวนี้ที่ให้มาขนาดสั้นการดูดเสียงพูดขณะสวมใส่ทำได้ค่อนข้างดีในระดับนึง แต่เนื่องจากตัวไมค์มีขนาดสั้นทำให้การกวาดเสียงรบกวนรอบข้างนั้นก็มากตามมาเช่นกันดังนั้นการปรับตั้งค่าไมค์ไม่ควร บูสไมค์เยอะเพราะจะทำให้เสียงรอบข้างนั้นเข้ามารบกวนได้ เท่าที่ใช้งานมาตรงส่วนไมค์นี่จะไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ 



ส่วนเสียงไมค์ที่ให้มานั้นเป็นอย่างไรลองไปฟังกันครับ

                                                                                                                                                                   

 สายแจ็คชุบทองมีรูป และ สีบอกที่หัวสายอย่างชัดเจน

 


ข้อดี

- ราคาอันนี้เอาเป็นอันดับแรกเลยคือราคาถูก เมื่อเทียบกับ Spec และ Design เป็นราคาที่เด็กๆก็จับต้องได้ 
- Design สวยงาม น้ำหนักเบา
- ear cup ใส่สบาย ใส่แล้วไม่เจ็บใบหู ระบายอากาศได้ดี ที่คาดเป็นยางเวลาปรับให้กระชับไม่รู้สึกปวดศรีษะ 
- สายสัญญานเสียงเป็นสายถักหุ้มด้วยยางเก็บงานได้ดีมากอันนี้ชอบมาก- ซุ่มเสียงเมื่อเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าดีเกินราคา


ข้อเสีย 

- ไมค์สั้นทำให้เสียงรอบข้างเข้ามารบกวนขณะพูดได้
- บอดี้ทำจากพลาสติก อาจจะดูไม่ค่อยแข็งแรง(แต่ส่วนตัวถือว่าพอใจ)
- สายลำโพงอยู่ระหว่างตัวปรับเลื่อนมีโอกาศขาดได้น่าจะเก็บให้มิดชิดกว่านี้อีกหน่อย
- การตัดเสียงรอบข้างทำได้ไม่ดี เสียงยังเข้ามารบกวนได้ขณะใช้งาน




สรุป โดยรวมผมว่าเจ้า V1 ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่น่าใช้งานเอาไว้ดูหนังฟังเพลง หรือจะเล่นเกมส์ก็ทำได้ดีในระดับนึงไม่ได้น่าเกลียดอะไรเป็นอะไรที่คุ้มค่าเงินที่เสียไปทั้ง design ทั้งคุณภาพเสียง ทำได้ไม่เลวเลยยังไงก็ลองพิจารณาดูเอาละกันครับผมก็รีวิวกันแบบใช้งานจริงแบบนี้แหละ ถ้าถูกใจอยากลองก็ไปจัดมาเลย บอกเลยว่าไม่เสียเงินฟรีแน่นอน

สำหรับเจ้า V1 คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 8 ครับ 


สุดท้ายก็ ขอจบการรีวิว Headset NUBWO NO V1 ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ครั้งหน้าหากมีอะไรเจ๋งๆผมจะนำมารีวิวให้ชมกันอีกนะครับ 


ห้ามนำรูปภาพไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อนทุกกรณี